Christmas Eve 2009
ในค่ำคืนนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้มีโอกาส
ชมการแสดงละครคริสต์มาสของกลุ่มเยาวชนและเด็กๆ
เมื่อพ่อยังเป็นเด็กเล็กอยู่
เวลาที่จะมีการแสดงก็จะมีการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทต่างๆ
และก็รู้สึกว่าเพื่อนๆ ทุกคนก็จะตื่นเต้นมากๆ
ใครจะเป็นมารีย์ หรือ ใครจะได้เป็นโจเซฟ
ใครจะรับบทเป็นคนเลี้ยงแกะ หรือทูตสวรรค์
หรือแม้กระทั่งเป็นสัตว์ต่างๆ
บางทีจะมีการแข่งขันกันอย่างคึกคักมาก
ถ้าไม่ระหว่างเด็กๆ ก็ระหว่างผู้ปกครอง
ที่ต้องการให้ลูกของตนเองมีส่วนสำคัญในการแสดงนั้น
ขอตั้งคำถามนิดหนึ่งว่า
ถ้าเราแต่ละคนถูกคัดเลือกให้เป็นนักแสดง
สำหรับละครคริสตมาสค่ำคืนนี้
คุณอยากที่จะเป็นตัวละครตัวใด ?
เป็นมารีย์ไหม?
เด็กหญิงหลายๆคนอยากที่จะเป็น มารีย์
เพราะจะได้สวมเสื้อคลุมสีฟ้าได้อุ้มเด็กน้อยในมือ
และเป็นจุดสนใจของทุกคน
ยังไงแล้วมารีย์ก็เป็นนางเอก
เป็นคนที่แสดงความเอ็นดูต่อพระกุมารเยซู
ซึ่งมารีย์ก็จะเป็นตัวแทนของพวกเราทุกคนเวลาท่านทำเช่นนี้
และในส่วนของโยเซฟ ผู้ชายบางคนอาจจะสนในบทนี้
เพราะโยเซฟเป็นผู้ชายที่สำคัญที่สุดในละครเรื่องนี้
เขาจะได้แสดงความเอาใจใส่ภรรยาของตน
และจะได้เฝ้าพระกุมารด้วยความรักและความเอ็นดู
แล้วก็จะมีพวกคนเลี้ยงแกะ
เด็กๆ หลายคนชอบเป็นชุมพาบาล เพราะว่ามันง่ายดี
แค่เอาผ้ามาพันบนศรีษะ และสวมอะไรที่เก่าๆ ก็พอได้
ไม่ต้องซ้อมอะไรมากมาย นี่เป็นสิ่งที่พวกผู้ชายชอบ
สำหรับเด็กหญิงเขาอาจจะอยากเป็นทูตสวรรค์
ที่จริงในพระคัมภีร์ทูตสวรรค์จะเป็นผู้ชาย
แต่สำหรับการแสดงละครคริสต์มาส
ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากใส่ปีก สวมชุดสีเขาและเต้นหรอก
เอาผ้ามาสวมดีกว่า เพราะฉะนั้นเด็กๆ ผู้หญิงก็เลยต้องเป็นทูตสวรรต์
ที่จะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
พร้อมกับสิ่งสร้างทั้งปวง
แล้วมีบทอื่นๆ สำหรับเด็กๆ ที่ค่อนข้าง Active
จำบทไม่ค่อยได้ อยู่เฉยๆไม่ค่อยเป็น
พวกนี้จะเป็นแกะหรือลา ถ้าเด็กคนไหนซนมากๆ
ก็จะได้เป็นส่วนหลังของตัวลา
เพราะตัวลามันใหญ่จะต้องการสองคนด้วยกัน
แล้วคุณอยากเป็นใคร? คุณสนใจบทไหนบ้าง?
สำหรับพ่อแล้ว พ่ออยากเป้นเจ้าของโรงแรม
ที่อยากเป็นไม่ใช่เพราะว่าอยากเป็นนักธุรกิจ
แต่พ่ออยากเป็นคนที่ได้ให้ที่พักที่แรกของพระบุตรของพระเจ้าบนโลกนี้ แม้จะเป็นที่ไม่เลิศหรูและแสนจะธรรมดา
แต่ก็เป็นที่ๆปลอดภัย
อย่างน้อยเมื่อพระเจ้าบังเกิดเป็นมนุษย์และอยู่ท่ามกลางเรา
เจ้าของบ้านพักคนนั้นมิได้ปฏิเสธ
หรือละทิ้งพระองค์หรือปล่อยให้คนอื่นช่วยเหลือแทน
เขาได้ต้อนรับพระองค์
พี่น้อง เราก็เช่นกัน ค่ำคืนนี้
เรามาชุมนุมกันที่นี่ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความรักและความชื่นชมยินดี
ทำไมเราถึงมีความสุขอย่างนี้
เพราะว่าพระกุมารได้บังเกิดและประจักษ์แก่ชาวเรา
ค่ำคืนนี้เราสมภชพระคริสตสมภพ
ซึ่งระลึกถึงการเสด็จมาของพระกุมารสู่โกลนี้และเข้าสู่ชีวิตของเราทุกคนคงไม่มีใครคาดคิดว่า 2000 ปีที่แล้วพระเจ้าจะถ่อมพระองค์
ละทิ้งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์
และรับสภาพมนุษย์เพื่อที่จะมีส่วนในชีวิตของมนุษย์เรา
ทำไมพระองค์ต้องทำเช่นนี้
นั่นเพราะความรักที่พระองค์ทรงมีต่อสิ่งสร้างของพระองค์นั่นเอง
ถ้าเราหันไปมองที่ถ้ำพระกุมารที่เราได้ตั้งไว้ในวัด
เราสามารถเห็นเหตุการณ์จำลองในวันที่พระองค์บังเกิด
เพราะในโรงแรมไม่มีห้องพัก
พระกุมารจึงต้องบังเกิดในถ้ำแห่งหนึ่ง
ซึ่งปกติจะเป็นที่พักสำหรับสัตว์เลี้ยง
มีใครเคยสงสัยหรือเปล่าว่า
ทำไมพระองค์ถึงเลือกที่จะบังเกิดในเมือง Bethlehem
ซึ่งเป็นเพียงเมืองเลก็ๆอย่างยากจนและขัดสนในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ? พระองค์เป็นกษัตริย์ เป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทุกองค์
เพราะฉะนั้นพระองค์น่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้
แต่นี่เป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการเพราะว่า สิ่งที่พระองค์กระทำนั้น
สอนเราว่า ความศักดิ์สิทธิ์ถูกพบเจอในความยากจน
ความถ่อมตน และความทุกข์ทรมาน
ด้วยการบังเกิดที่ต่ำต้อยอย่างนี้
พระองค์ได้ให้โอกาสพวกคนเลี้ยงแกะเป็นคนแรกที่ได้มาเฝ้าพระองค์ ถ้าหากว่าพระองค์บังเกิดในพระราชวังแล้ว
ก็จะมีแต่คนร่ำรวยและคนที่มีชื่อเสียงที่สามารถมาหาพระองค์ได้
แต่พระเยซูเจ้าไม่ได้เสด็จมาในโลกนี้
เพื่อคนรวยและคนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น
พระองค์เสด็จมาเพื่อทุกคนรวมถึงพวกเรา
ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดหนองบัวลำภู
ซึ่งเป็นแค่จังหวัดเล็กๆ และธรรมดานี้ด้วย
ที่จริงพ่อคิดว่าถ้าพระองค์มิได้บังเกิดที่ Bethlehem
แต่บังเกิดในเมืองไทย
พระองค์อจาจจะเลือกหนองบัวลำภูก็เป็นไปได้
และแทนที่จะมีคนเลี้ยงแกะมาเฝ้าพระอค์
ก็จะมีคนเลียงวัวเลี้ยงควายและสัตว์ของเขาที่ทำอย่างนี้
เมื่อครู่นี้เราได้ยิน ทูตสวรรค์พูดกับพวกเลี้ยงแกะว่า
“เรานำข่าวดีมาบอกท่านทั้งหลาย
เป็นข่าวดีจะทำให้ประชาชนทุคนยินดีอย่างยิ่ง
วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด
พระผู้ไถ่ได้ประสูติเพื่อท่านแล้ว
พระองค์คือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า “
ความชื่นชมยินดีที่คนเลี้ยงแกะมีนั้น
ก็เป็นความชื่นชมยินดีของเราทุกคน
หากพระเยซูเจ้าไม่ได้บังเกิดเป็นมนุษย์
เราคงไม่ได้รับการไถ่กู้ซึ่งทำให้เราคืนดีกับพระเจ้า
และช่วยให้เราได้รับชีวิตใหม่ในพระองค์
ความชื่นชมยินดีและสันติที่เรามีค่ำคืนนี้ไม่เหมือนทุกๆวัน
วันนี้พิเศษว่าลึกซึ้งกว่า เพราะเราทราบว่า
พระเยซูเจ้าสถิตท่ามกลางเรา พร้อมกับพระแม่มารีย์พระมารดา
นักบุญยอแซฟ บรรดานักบุญทั้งหลาย และบรรดาทูตสวรรค์
ให้เราจดจำความรู้สึกนี้เพื่อให้เป็นกำลังใจให้แก่เราตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะในเวลาที่ร็สึกท้อใจและลำบากใจ
อย่าลืมว่าพระเจ้าได้บังเกิดเป็นมนุษย์อย่างยากจน
และได้ทนทุกข์ทรมานถูกประหารชีวิตบนไม้กางเขน
และสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
แต่พระองค์ได้ชนะความตายและความชั่วร้าย
หลัง 3 วันพระองค์ได้กลับคืนชีพและเสด็จขึ้นสวรรค์
ถ้าเราทุกคนดำรงชีวิตอย่างซื่อสัตย์อย่างศรัทธา
ด้วยความรักความพรากเพียร ความถ่อมตนเหมือนพระองค์
เราก็จะมีส่วนในชีวิตนิรันดร์กับพระองค์บนสวรรค์ด้วย
พี่น้องในค่ำคืนนี้ ให้เราจดจำว่า
พระกุมารประสูติมาเพื่อเราแล้ว
และพระองค์ต้องการให้พวกเราทุกคนติดตามพระองค์
ขอให้เราทุกคนต้อนรับพระองค์เข้าสู่ในจิตใจของเรา
อาณาจักรของพระองค์จะไม่สมบูรณ์ฃถ้าเราไม่มีส่วนในนั้น เพราะฉะนั้นให้เรามองไปที่รางหญ้านของพระกุมาร
ด้วยความรักและความหวัง
และในชีวิตประจำวันของเรา ขอให้เรายืนหยัดด้วยความอดทน
ไม่หันไปจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าเลย
ถ้าพระองค์อยู่ในสายตาของเราตลอดเวลา
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นใทชีวิตของเรา
แต่เราก็จะไม่ท้อแท้ ไม่ผิดหวังกับชีวิต
ขอให้ความชื่นชมยินดีและสันติของพระกุมาร
สทิตอยู่กับพี่น้องทุกท่านตลอดไป
Saturday, December 26, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment